วันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2550

ตัวเลขในภาษาอังกฤษ…เขาอ่านกันอย่างไร? (2)

การอ่านปีค.ศ.
การอ่านปี ค.ศ. เรามักจะอ่านแยกทีละ 2 ตัว คือ 2 ตัวแรกและ 2 ตัวหลังจนถึงปี ค.ศ.1999 เช่น
1066 อ่านว่า ten sixty-six
1800 อ่านว่า eighteen hundred
1784 อ่านว่า seventeen eighty-four
1902 อ่านว่า nineteen hundred and two หรือ nineteen-O-two (อ่านเลขศูนย์ว่า “โอ”)
ส่วนปี ค.ศ.2000 ขึ้นไปจะอ่านแบบตัวเลขปกติก็ได้ เช่น
2007 อ่านว่า two thousand and seven
2015 อ่านว่า two thousand and fifteen หรือ twenty fifteen ก็ได้เช่นกัน

การอ่านเศษส่วน
การอ่านเศษส่วนนั้น มักจะแบ่งออกเป็น 2 แบบง่ายๆ คือ แบบที่เป็นคำเฉพาะ เช่น
1/2 อ่านว่า a half
1/4 อ่านว่า a quarter หรือ a fourth
นอกนั้นให้อ่าน “เศษ”แบบตัวเลขธรรมดา (อาจใช้ a หรือ an แทน one) และ “ส่วน” ให้อ่านแบบลำดับที่ เช่น
1/5 อ่านว่า a fifth หรือ one-fifth
1/8 อ่านว่า an eighth
1/16 อ่านว่า a sixteenth หรือ one-sixteenth
แต่ถ้าเศษมากกว่าหนึ่งต้องเติม s ที่ส่วนด้วย เช่น
3/4 อ่านว่า three-quarters หรือ three-fourths
3/16 อ่านว่า three-sixteenths
2/3 อ่านว่า two-thirds
1 1/2 อ่านว่า one and a half
2 3/8 อ่านว่า two and three-eighths

การอ่านจุดทศนิยม
เรามักจะอ่านตัวเลขหน้าจุดทศนิยมเหมือนการอ่านตัวเลขทั่วไป และอ่าน “จุดทศนิยม” ว่า point ส่วนตัวเลขหลังจุดทศนิยมให้อ่านแบบเรียงตัว โดยไม่ต้องมี hundred, thousand,…แสดงหลักอีก เช่น 5.2 อ่านว่า five point two หรือ 123.36 อ่านว่า one hundred and twenty-three point three six

บวก ลบ คูณ หาร อ่านอย่างไร?
- บวก (+) ใช้คำว่า “add” หรือ “plus” เช่น
7 + 5 = 12 อ่านว่า Add 7 and 5 to make 12. หรือ 7 plus 5 equals 12.
- ลบ (-) ใช้คำว่า “minus” หรือ“subtract” เช่น
7 - 5 = 2 อ่านว่า 7 minus 5 is 2. หรือ If you subtract 5 from 7, you get 2. หรือ 7 subtract 5 leaves 2.
- คูณ (x) ใช้คำว่า “multiply” หรือ “times” (ภาษาพูด) เช่น
7 x 5 = 35 อ่านว่า 7 multiplied by 5 is 35. หรือ 7 times 5 equals 35. หรือ อาจใส่ s ที่หลังตัวเลขตัวหลัง เช่น Seven Fives are 35.
- หาร (÷) ใช้คำว่า “divide” เช่น
6 / 3 = 2 อ่านว่า 6 divided by 3 is 2. หรือ If you divide 6 by 3, you get 2.

การอ่านเวลาแบบง่ายๆ
การอ่านเวลา เราควรจะอ่านแยกชั่วโมงกับนาที เช่น
10.25 a.m. อ่านว่า ten twenty-five in the morning.
03.00 p.m. (บ่ายสามโมง) อ่านว่า three o’clock in the afternoon.
08.30 p.m. (สองทุ่มครึ่ง) อ่านว่า eight thirty in the evening. (อ่านว่า “อีฟนิ่ง” อย่าอ่านว่า “อีเวนนิ่ง” นะครับ)
โดย a.m. ย่อมาจากภาษาละตินว่า ante meridiem แปลว่า ก่อนเที่ยง (in the morning) โดยใช้แสดงเวลาตั้งแต่เที่ยงคืนถึงเที่ยงวันใช้
ส่วน p.m. ย่อมาจากภาษาละตินว่า post meridiem แปลว่า หลังเที่ยง โดยหลังเที่ยงวันถึงหกโมงเย็นใช้ p.m.= in the afternoon แต่ถ้าหกโมงเย็นไปจนถึงเที่ยงคืนใช้ p.m. = in the evening
สำหรับเที่ยงวันพอดีเราใช้ at noon และเที่ยงคืนพอดี ให้ใช้ at midnight ซึ่งฝรั่งส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับการนับเวลาแบบ 12 ชั่วโมงมากกว่าการนับเวลาแบบ 24 ชั่วโมง (twenty-four hour clock) ที่คนไทยนิยมใช้ครับ

เขียนโดย....ครูเฟียต (ธีรเจต บุญพยุง)

3 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ได้ความรู้บานเลยค่ะ Thank you >///<

Unknown กล่าวว่า...

Place

Unknown กล่าวว่า...

ชอบตุณค่ะสำหรับความรู้ดีๆเข้าใจง่ายค่ะ